วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เกาะละดิง

เกาะละดิง หรือ เกาะเหลาลาดิง ( เกาะพาราไดซ์ ) เกาะที่ถูกซุกซ่อนโดย ธรรมชาติแต่แฝงไว้ด้วยความสวยงามของหาดทราย และความเงียบสงบเป็นส่วนตัว เป็นเกาะที่เป็นที่พักอาศัยของกลุ่มสัมปทาน เก็บรังนก แต่ก็ยังเปิดเกาะให้นักท่องเที่ยวเข้าไป เที่ยวชม และพักผ่อน ภายในเกาะนั้นมีหาดทราย ละเอียด มีปลาและปะการัง ให้เล่นน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน เกาะเหลาลาดิง เป็นเกาะเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวมักแวะเวียนเข้ามาเมื่อมาเที่ยวยังเกาะห้อง มีลักษณะเป็นภูผา มีป่าเกาะที่สวยงาม และมีแนวชายหาด เล็กๆ อยู่บนเกาะ ทั้งยังมีน้ำทะเลที่ใสสะอาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ




เกาะผักเบี้ย

เกาะผักเบี้ย เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางด้านหลังของเกาะห้อง น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาด เหมาะแก่การลงเล่นน้ำบรรยากาศเงียบสงบร่มรื่น ไปด้วย ต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่ริมหาด เกาะผักเบี้ยนี้ แม้ว่าจะมีแนวชายหาดที่ไม่กว้างมากนัก แต่ก็มีหาดทรายที่ขาวสะอาดไม่แพ้ หาดอื่นๆ เมื่อน้ำลงสันทรายที่เกาะผักเบี้ยนี้จะปรากฏเป็นแนวยาวไปจนจรดอีกเกาะหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า เกาะผักเบี้ย เช่นกัน และสามารถเดินถึงกันได้ในเวลาน้ำลงเต็มที่เท่านั้น เพราะในเวลาที่น้ำขึ้น น้ำก็จะแยกเกาะผักเบี้ยออกเป็นสองเกาะนั่นเอง


วิธีที่สะดวกคือ ซื้อแพ็กเก็จทัวร์ประเภทครึ่งวันหรือเต็มวัน โดยติดต่อได้ที่รีสอร์ทที่พัก หรือบริเวณหน้าหาดอ่าว โปรแกรมทัวร์ หมู่เกาะห้อง จ.กระบี่” จะถูกจัดไว้รวมกับโปรแกรมทัวร์เกาะผักเบี้ย , เกาะลาดิง , เกาะห้อง พร้อมบริการอาหารและ เครื่องดื่ม ตลอดการเดินทาง

เกาะห้อง

เกาะห้อง ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เกาะห้อง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะเหลาบิเละ เป็นเกาะที่มีทัศนียภาพ สวยงามมาก ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีคราม มีกัลปังหาและปะการังรอบเกาะ โดยมีจุดที่น่าสนใจได้แก่ “ อ่าวบิเละ ” เป็นอ่าวที่มี หาดทรายโค้งเป็นรูปนกบิน ทรายละเอียดขาวสะอาด น้ำทะเลใส  สีเขียวมรกต มีฝูงปลาเล็กๆ แหวกว่ายให้เห็นอยู่ทั่วไป ห่างจาก ชายหาดลงไปในทะเลมีกัลปังหาและปะการังหลากชนิด ชายทะเลเหมาะแก่การเล่นน้ำ  ถือว่าเป็นแหล่งพายเรือคายัคและ แหล่งดำน้ำ ดูปะการังน้ำตื้นที่สวยงามจนได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 เกาะ ที่มีหาดน่าเที่ยวและสะอาดที่สุดในโลก

ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของ เกาะห้อง คือ อ่าวห้อง (ลากูน) หรือ ทะเลใน ซึ่งเปรียบเสมือนสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ผนังเป็นหน้าผาชันโดยรอบ ลักษณะคล้ายห้อง มีประตูทางเข้าเพียงทางเดียว กว้างประมาณ 10 เมตร สามารถนำเรือเข้าไปได้ พื้นเป็นทรายขาวสะอาดราบเรียบเสมอกัน น้ำตื้นและใสมาก เหมาะแก่การเล่นน้ำ และยังเป็นที่หลบคลื่นลมของชาวประมง เมื่อมีพายุพัดผ่าน

ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม  สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปีแต่ช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม คือ กลางเดือน พ.ย. – ต้นเดือน พ.ค. (ช่วงเดือน มิ.ย. – ต.ค. เป็นช่วงฤดูมรสุมไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยว

การเดินทางไปเกาะห้อง กระบี่
วิธีที่สะดวกคือ ซื้อแพ็กเก็จทัวร์ประเภทครึ่งวันหรือเต็มวัน โดยติดต่อได้ที่รีสอร์ทที่พัก หรือบริเวณหน้าหาดอ่าว โปรแกรมทัวร์ หมู่เกาะห้อง จ.กระบี่” จะถูกจัดไว้รวมกับโปรแกรมทัวร์เกาะผักเบี้ย , เกาะลาดิง , เกาะห้อง พร้อมบริการอาหารและ เครื่องดื่ม ตลอดการเดินทาง หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะอาจติดต่อได้โดยตรงกับเรือหางยาวที่จอดรออยู่มากมายบริเวณหน้าหาดอ่าวนาง บางลำมีบริการอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย
หากไม่ใช้บริการทัวร์ สามารถใช้บริการเรือหางยาวท่องเที่ยวเกาะต่างๆในกระบี่ของสหกรณ์เรือหางยาว  ราคาตามนี้ติดต่อได้ที่ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา ราคาดังนี้

เกาะรอก

เกาะรอก อยู่ในน่านน้ำทะเลกระบี่ที่เชื่อมต่อทะเลตรัง ลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆ ตั้งคู่กันเป็นเกาะที่มีหาดทราย ที่ยาวเหยียด เม็ดทรายละเอียดเนียนนุ่มเท้าเมื่อสัมผัส ทรายขาวมาก บรรยากาศการท่องเที่ยวของเกาะรอก เหมาะกับ ผู้ชื่นชอบการค้นหามุมมองที่สวยงาม เงียบสงบ และโรแมนติกจากธรรมชาติ หาดทรายที่สวยงาม น้ำทะเลตื้นและใสมากแนวปะการังที่อุดมไปด้วยดอกไม้ทะเลเป็นถิ่นอาศัยของปลาการ์ตูนส้มเหลืองสี สดใสที่ ทุกคน ชื่นชอบที่จุดชมทิวทัศน์เกาะรอกนอกจะเห็นภาพของอ่าวโค้งคล้ายเกือกม้า สองด้านของอ่าวเป็นผาหินสูง ชันเห็นทิวทัศน์ของเกาะรอกนอกและเกาะรอกในและ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง วัน


เกาะรอกได้รับการประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เกาะรอกประกอบด้วย 2 เกาะคือ เกาะรอกในและเกาะรอกนอก ด้านที่หันหน้าเข้าหากันเป็นหาดทราย คั่นด้วยร่องน้ำทะเลตื้นๆ ระยะห่างของ เกาะประมาณ 250 เมตร สำหรับคนที่ชอบเดินเล่นปล่อยอารมณ์ไปตามชายหาด ด้านหน้าของเกาะรอกนอก มีหาดทรายสีขาวละเอียด ทอดตัวยาวจากหัวเกาะถึงท้ายเกาะ ใครที่อยากกระโดดน้ำเล่นบริเวณนี้ก็สามารถทำได้


จุดเด่นของ หมู่เกาะรอก คือแนวปะการังรอบเกาะและตามร่องน้ำ ส่วนใหญ่เป็นปะการังก้อน มีดอกไม้ทะเลและ ปลาการ์ตูนอาศัยอยู่มากมาย บริเวณที่ลึกยังพบปะการังอ่อน แต่มีจำนวนไม่มากนัก เกาะรอกจึงเป็นสวรรค์ของ นักดำน้ำทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น ปะการังด้านตะวันออกของเกาะเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ทั้งปะการัง เขากวาง ปะการังสมอง ปะการังแผ่น ดอกไม้ทะเล และปลาการ์ตูนหลากสีสัน นอกจากนี้ยังมีรายงาน การพบ ฉลามวาฬบริเวณหินม่วง หินแดง น่านน้ำบริเวณรอบนอกของเกาะรอกอยู่บ่อยครั้ง ทำให้นักดำน้ำใฝ่ฝันที่จะมา สัมผัสอย่างใกล้ขิด จุดดำน้ำที่สำคัญของเกาะรอกอยู่ที่ชายหาดด้านหน้าเกาะรอกนอก และบนเกาะรอกในบริเวณ ร่องน้ำระหว่างเกาะยาวไปตลอดจนถึงทะเลหน้าหาดศาลเจ้า สองแห่งนี้เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม นอกจากนี้ใน ยามเย็นยังสามารถชมความงามของแสงสุดท้ายของวันได้ที่บริเวณอ่าวหาดหินงาม ส่วนภาพ อาทิตย์ขึ้นนั้น เพียงคุณตื่นเช้าสักนิด ก็จะพบกับแสงแรกของวันที่บริเวณหน้าเต็นท์กันเลยทีเดียว




สิ่งที่น่าสนใจบนเกาะรอก
1.เกาะรอกนอก 
เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯหมู่เกาะลันตาที่1 ชายหาดด้านหน้าเกาะรอกนอกเป็นหาดทรายสีขาวละเอียด ทอดตัวยาวจากหัวเกาะถึง ท้ายเกาะสามารถลงเล่นน้ำได้และมีอนวปการังอยุ่ทางทิศใต้ของเกาะ จากที่ตั้งหน่วย พิทักษ์ฯมีทางเดินเท้าไปยังอ่าวทะลุที่อยู่ด้านหลังเกาะรอก ได้ มีลักษณะเป็นหาดหิน ตัวอ่าวเว้าโค้งเป็นรูปเกือกม้า เวลาน้ำลงจะพบหินรูปร่างและสีสันแปลกตา มีเส้นทางเดินไปยังจุดชมวิวผาเสม็ดแดง เป็นหน้าผาที่มีต้นเสม็ดแดง ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ริมหน้าผาสามารถมองเห็นวิวของ หมู่เกาะทะเลตรังและเห็นได้ไกลไปถึงเกาะลันตานอกจากนี้ ที่เกาะรอกนอกยังมีอ่าวม่านไทรอยู่ถัดจากหาดหน้าไปทางท้ายเกาะ หากเป็นช่วงน้ำลงสามารถเดิน เลาะหาดไป ถึงอ่าวม่านไทรได้เลย ที่อ่าวม่านไทรนี้มีต้นไทรยักษ์แผ่รากไทรย้อยลงมาปกคลุมพื้นล่างคล้ายม่าน และเป็นที่น่า สังเกตว่าป่าในบริเวณนี้ี้เป็นป่าผสมระหว่างป่าชายเลน ป่าชาดหาดและป่าดงดิบ ส่วนด้านหน้าอ่าวเป็นหาดทราย สีขาวความลาดเอียงกำลังพอดีเหมาะกับการเล่นน้ำ และค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะ เที่ยวชมแค่หาดหน้าเกาะ เท่านั้น
สันทรายสีขาวตัดกับผืนนำ่สีฟ้าของเกาะรอกนอก
2. เกาะรอกใน
มีหาดศาลเจ้าเป็นหาดทรายเพียงแห่งเดียวบนเกาะ อยู่ห่างทางด้านทิศตะวันออกหันหน้าเข้าหา เกาะรอกนอก บริเวณร่องน้ำระหว่างเกาะยาวไปตลอดจนถึงทะเลหน้าหาดศาลเจ้าเป็นแหล่งดำน้ำดู ปะการังที่สวยงาม และเหตุที่ี่ เรียกว่าหาดศาลเจ้าเพราะที่นี่มีสาลเจ้าแม่ทับทิมที่ชาวประมง มาสร้างไว้และมีปลัดขิกขนาดใหญ่และที่เล็กที่ ชาวประมงนำมาถวายเจ้าแม่ทับทิม กองอยู่ที่ศาลเป็นจำนวนมาก ถัดจากหาดศาลเจ้ามาทางตอนใต้ ของ เกาะรอกใน เป็นแหลมสยามมีเสาหลักเขตสยามอันเก่าแก่แต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม อาจมี ความหมายเพื่อบอกเขตแดนประเทศไทย ในบริเวณใกล้ๆเสาหลักเขตสยามเป็นอ่าวที่สามารถดำน้ำดูปะการัง ที่สวยงามอีก จุดหนึ่งบนส่วนทางด้านตะวันตกเฉียงใต้หรือด้านหลังเกาะมีน้ำตกเกาะรอกใน นับเป็นสัญลักษณ์ของ เกาะรอกที่เดียว สายน้ำไหลมาจากยอดเขาสูงลงมาเป็นทางยาวตกลงสู่ทะเล แต่จะมีน้ำเฉพาะช่วงฤดูฝน จนถึง ต้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้นนอกจากนี้ยังมีอ่าวหินงาม ซึ่งอยู่ติดกับอ่าวหลักเขตตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ เกาะรอกใน เป็นอ่าวที่มีหินรูปร่างต่างๆหลากสีสันจึงเรียกว่าอ่าวหาดหินงาม
3.จุดชมวิว 
บริเวณด้านหลังเกาะมีเส้นทางเดินขึ้นจุดชมวิวซึ่งอยู่บนเขาเมื่อมองลงมาจะเห็นทัศนียที่สวยงาม



การเดินทางไปเกาะรอก
1.จากเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งการเดินทางจากเกาะลันตาค่อนข้างสะดวกกว่าเนื่องจากมีเรือโดยสารของบ.ทัวร์ ไปยังเกาะรอกทุกวัน โดย สามารถซื้อแพคเกจทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับได้ที่รีสอร์ทที่พัก ซึ่งเรือจะมารับถึงหน้าหาดเรือออกจาก เกาะลันตา ประมาณ 8.00 น. แวะรับผู้โดยสารตามรีสอร์ทต่างๆ จนครบแล้วก็มุ่งสู่เกาะรอก ไปถึงเกาะรอก จอดเรือให้เล่นน้ำ และพาไปปล่อยให้ลงดำผิวน้ำ ตอนเย็นก็เดินทางกลับ โดยเรือจะกลับจากเกาะรอกเวลา 16.00 น. การเดินทาง แบบนี้สะดวกและไม่เสียค่าใช้จ่ายมาก ค่าเดินทางไปเกาะรอกแบบทัวร์วันเดียว ราคาท่านละ 1,200-1,400 บาท
2.จากท่าเรือปากเมง จังหวัดตรัง 
ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร สามารถไปได้โดยการซื้อแพ็คเก็จทัวร์แบบ Day trip เช้าไป-เย็น หรืิ้อซื้อ แพคเกจทัวร์์แบบค้างคืน ซึ่งต้องคอยเช็คว่าจะมีเรือออกในวันนั้นหรือไม่ หรือถ้ามากันหลายคนก็ อาจเช่าเหมา ลำไปมีทั้งเรือเร็ว Speed Boat และเรือหางยาวขนาดใหญ่ เรือเร็วใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า
ท่องเที่ยวแบบไปค้างคืน
จากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ2 เที่ยว เวลา 10.00 น. และ 14.30 น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น . และ 13.00 น. ค่าโดยสารคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 น.

สำหรับผู้ที่ต้องการค้างคืนบนเกาะรอก
นอกจากจะซื้อแพคเกจทัวร์แบบ 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน จากบริษัททัวร์แล้ว ซึ่งอย่างที่แจ้งคือต้อง เช็ค ล่วงหน้า ว่ามีเรือออกหรือไม่ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อแพคเกจแบบไปเช้าเย็นกลับและไปค้างคืนที่นั้นได้ โดยสามารถนั่งเรือกลับอีกวันหนึ่งโดยนัดแนะวันกลับกับทัวร์ให้เรียบร้อย โดยเรือจะออกจากเกาะลันตาเวลา 8.00 น. และออกจากเกาะรอกประมาณ 15.00 น.นักท่องเที่ยวสามารถมาพักแรมที่ เกาะรอกนอกโดยใช้ชีวิตแบบชาวแคมป์ ซึ่งบนเกาะไม่มีสิ่งอำนายความสะดวกใดๆ มากนัก จะพักบ้านพักขิงอุทยาน ซึ่งต้องมีการจองล่วงหน้า หรือจะเลือกพักแบบเต้นท์ ซึ่งทางอุทยานมีให้เลือกทั้งสองแบบ อุทยาน มีบริการเรื่องอาหาร สามารถสั่งซื้อได้ ที่อุทยาน หรือจะได้เตรียมอาหาร มาเพื่อจะปิ้งย่างเองก็ได้

อ่าวนาง

อ่าวนาง เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทะเลกระบี่ เป็นที่ตั้งของ รีสอร์ท ร้านอาหาร บริษัททัวร์ให้บริการนำเที่ยวเกาะที่มีชื่อต่างๆของกระบี่ เช่น ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะพี พี หมู่เกาะห้อง เป็นจุดเช่าเรือไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ หาดไร่เล ถ้ำพระนาง และเกาะต่าง ๆสถานที่ท่องเที่ยวในทะเลกระบี่ พื้นที่ของ อ่าวนาง จะ ตั้งอยู่ตามถนนเลียบชายทะเลเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นหาดทรายทอดยาว มีถนนเลียบชายหาด มีภูเขาคั่นระหว่างชายหาด ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตา ด้านทิศตะวันออก ของอ่าว มีถ้ำหิน งอกหินย้อยชื่อ ถ้ำพระนาง และบริเวณด้านหน้าของ อ่าวนาง มีกลุ่มเกาะน้อยใหญ่ถึง 83 เกาะ ที่เป็นโขดหิน รูปร่างแปลกประหลาดบ้างก็คล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา หัวนก และอื่น ๆ กลุ่มเกาะเหล่านี้ เช่น เกาะปอดะ เกาะยาหมัน เกาะบะติงมิ้ง เกาะยาวาซา เกาะลาดิง เกาะหม้อ เกาะทัพ เป็นต้น อ่าวนางถือเป็น จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง


การเดินทางไปอ่าวนาง
จากตัวเมืองกระบี่ นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารรถสองแถว ค่าโดยสาร 50 บาท ใช้เวลาประมาณ 45นาที สำหรับค่าโดยสารเรือจาก อ่าวนางไปยังหาดและเกาะต่าง ๆ เช่น อ่าวนาง-ไร่เลย์ ใช้เวลา 10 นาที ค่าโดยสารคนละ 50บาท อ่าวนาง-ถ้ำพระนาง ใช้เวลา 15  นาที ค่าโดยสารคนละ 50 บาท อ่าวนาง-เกาะปอดะ ใช้เวลา 25 นาที ไป-กลับ ค่าโดยสารคนละ 200 บาท อ่าวนาง-เกาะไก่ ไป-กลับ ใช้เวลา 25 นาที ค่าโดยสารคนละ 250 บาท อ่าวนาง-หมู่เกาะห้อง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ราคาค่าเรือลำละ 1500 บาท สำหรับเวลากลางคืน อ่าวนาง-ไร่เลย์ ค่าโดยสารคนละ 80 บาท& สามารถเช่าเรือได้ตั้งแต่เวลา 07.00–19.00 น.

อ่าวไร่เลย์

อ่าวไร่เลย์ ตั้งอยู่ใน ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เป็นหาดทรายสีขาวละเอียดริมโตรกผา ซึ่ง หาดไร่เลย์ เป็นที่รู้จักดี ในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนหน้าผา และ หาดไร่เลย์ แบ่งออกเป็น หาดไร่เลย์ตะวันออก (หาดน้ำเมา) และ หาดไร่เลย์ตะวันตกซึ่งเป็นหาดที่ได้รับควมนิยม เนื่องจากน้ำทะเลใส หาดทรายสวย และยังเป็นจุดชม พระอาทิตย์ ตกที่สวยงาม อีกด้วย โดยหากไร่เลย์ตะวันออกและตกมีโขดหินคั่นระหว่างหาดทั้งสอง  บริเวณที่นิยมปีนผาคือบริเวณ ไร่เลย์ตะวันออก อ่าวต้นไทร และเขาแถวถ้ำพระนางใน


การเดินทางไปอ่าวไร่เลย์
- จากอ่าวนางไปไร่เลย์โดยเรือหางยาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ราคา 80 บาท / ท่าน เรืองหางยาวสามราถจุคนได้ 8 - 10 คน /เที่ยว เรือหางยาวนี้ได้รับความนิยมใช้กันมากในการเดินทางไปที่ไร่เลย์เพราะใช้เวลาในการเดินทางน้อย ในกรณีที่ท่านมา จากตัวเมืองกระบี่ท่านสามารถนั้งรถประจำทางมาที่อ่าวนางเพื่อต่อเรือหางยาวไปที่ไร่เลย์ได้รถประจำทางใช้เวลา เดินทางจาก ตัวเมืองกระบีไปที่อ่าวนางใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- จากตัวเมืองกระบี่ถึงท่าเรือเจ้าฟ้าโดยเรือหางยาวใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ค่าโดยสารประมาณ 100 บาท / คน / เวลาเดินทางนาน แต่สะดวกมากท่าท่านเดินทางมาจากตัวเมืองกระบี่ .การเดินทางโดยใช้ทางนี้ไม่เหมาะกับช่วงฤดูฝน
- การเดินทางจากอ่าวน้ำเมาใกล้ๆกลับสุสานหอย75ล้านปี เดินทางโดยใช้เรือหางยาว เพื่อไปที่ไร่เลย์ตะวันออก เส้นทางนี้เหมาะสำหลับท่านที่คิดจะไปช่วงหน้าฝน

เกาะปอดะ

เกาะปอดะ เกาะสวยแห่งทะเลกระบี่ เป็นเกาะเอกชนที่ยังคงความงดงาม เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการเที่ยวทะเล กระบี่เกาะปอดะ ตั้งอยู่ในทะเลด้านหน้าอ่างนาง อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตรหาก ยืนอยู่ริมหาดที่ อ่าวนางหรือ หาดพนรัตน์ธารา แล้วมองออกไปในทะเลจะเห็นหมู่เกาะเล็กใหญ่กระจุกตัวอยู่ ในบริวณใกล้ๆ กัน เกาะใหญ่ที่สุดในนั้นคือเกาะปอดะ เกาะใกล้ๆ กันได้แก่เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะไก่ ซึ่งเป็น 4 เกาะไฮไลท์สำหรับ การท่องทะเลกระบี่



เกาะปอดะ มีชายหาดล้อมรอบทั้งสามด้านยกเว้นทางด้านทิศตะวันตกซึ่งเป็นด้านที่รับคลื่นด้านนี้เป็นหน้าผาหิน สูง ชันชาดหาด ด้านหน้าเกาะหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลใสถึงแม้จะอยู่ไม่ไกลจากฝั่ง นักท่องเที่ยว นิยม แวะ ขึ้นเกาะเพื่อไปพักผ่อน เดินเล่นชาดหาดและเล่นน้ำ ถึงแม้เกาะนี้จะเป็นเกาะ เอกชนแต่เป็นเอกชน ใจดีไม่เก็บ ค่าธรรมเนียมค่าขึ้นเกาะ ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวจึงควรช่วยกันรักษาความสะอาด

จากนั้นก็จบด้วยเกาะปอดะ เกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด นุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าใส  เกาะปอดะเหมาะกับ การมา เที่ยวพักผ่อนและเล่นน้ำซะมากกว่าที่จะมาดำน้ำชมปะการัง เพราะในย่านนี้ไม่ค่อยมีที่พอมีก็ไม่สวยทะเลกระบี่ เหมาะกับการมาท่องเที่ยวพักผ่อนชมวิว เล่นน้ำการมาชมทะเลแหวก ควรมาชมในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุด ในแต่ละวัน โดยเฉพาะ ในวันก่อน และหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวทะเลแหวกคือ ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึง ต้นพฤษภาคม



บนเกาะเป็นที่ต้องของปอดะ ไอร์แลนด์ รีสอร์ท มีที่พักไว้บริการให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจขึ้นไปพักบนเกาะ นอก จากที่พักแล้วบนเกาะยังมีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว ท่องเที่ยวชายหาด บริเวณหาดด้านหน้ามีชายหาด เป็น แนวยาวเหมาะแก่การเล่นน้ำชาดหาด ด้านซ้ายเป็นอีกจุดที่น่าพักผ่อนเพราะเงียบสงบคนน้อย หาดด้านขวา หรือ ทิศเหนือของเกาะไม่เหมาะที่จะพักผ่อนเล่นน้ำเพราะเป็นจุดจอดเรือหางยาวและใกล้ทางเข้าร้านอาหารผู้คน พลุกพล่านพอสมควร กิจกรรมดำน้ำชมปะการัง หาดด้านหน้ามีแต่พื้นทรายไม่มีแนวปะการัง หาดด้านทิศใต้เป็น แนวสันทรายไม่มีแนวปะการังจุดดำน้ำชมปะการังของเกาะปอดะอยู่บริเวณทิศเหนือในจุดที่มีลูกลอยสีส้มล้อมไว้ แต่เกาะปอดะเหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนและเล่นน้ำซะมากกว่าที่จะมาดำน้ำชมปะการัง เพราะปะการังใน ย่านนี้ไม่ค่อยมีที่พอมีก็ไม่สวย ทะเลกระบี่เหมาะกับการมาท่องเที่ยวพักผ่อนชมวิว เล่นน้ำ

การเดินทางไปเกาะปอดะ
สามารถเที่ยวโดยซื้อแพคเก็จทัวร์โดยเรือหางยาว ราคาท่านละ 350 - 450 บาท แพคเก็จเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ท ราคาท่านละ 800 - 1,000 บาท จากบริษัททัวร์ที่ให้บริการ ตอนเช้ามีรถไปรับถึงโรงแรม ตอนเย็น ไปส่งกลับถึงโรงแรม หรือถ้าเดินทางมา โดยรถทัวร์ลงรถ แล้วรออยู่ที่ท่ารถ บขส. ตอน 8.00 - 8.15 น. จะมีรถ ไปรับถึงที่ท่ารถ คนเดียวหรือสองคนก็มาได้ รถจะวิ่งรับ ตามจุดไปเรื่อยๆ แล้วพามาลงเรือที่อ่าวนาง โดยโปรแกรม ท่องเที่ยวจะเป็นทัวร์ 4 เกาะ ได้แก่ ทะเลแหวก (เกาะหม้อ เหาะทับ) เกาะปอดะ เกาะไก่
หากไม่ใช้บริการทัวร์ สามารถใช้บริการเรือหางยาวท่องเที่ยวเกาะต่างๆในกระบี่ของสหกรณ์เรือหางยาว ติดต่อได้ที่ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา ราคาดังนี้

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หมู่เกาะพี พี

หมู่เกาะพี พี อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ราว 40 กิโลเมตร หมู่เกาะพีพี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลัง กลายเสียงเป็น “พี พี" ซึ่งได้ ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้้ทะเลและปลาหลากสีสันที่สวยงาม


เกาะพีพี
หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ๆ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล และเกาะเล็กๆข้างเคียง คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ อาจกล่าวได้ว่า เกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล เป็นสุดยอดแห่งสถานที่ท่องเที่ยวหลัก เป็นเวิ้ง หรืออ่าวใหญ่ที่ภายในมีหาดทรายขาวสะอาดสวยงาม น่าเล่นน้ำแลพดูปะการัง และเกาะพีพีดอน เองครั้งหนึ่ง เคย ติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับเกาะที่สวยงามที่สุดในโลกเลยทีเดียว เกาะพีพีดอนเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะพีพี มีทั้ง ที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วยเกาะพีพี ประกอบ ด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่ คือ อ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัมคั่นด้วยที่ราบเล็กๆร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญบนเกาะพีพี



1. เกาะพีพีดอน 
เกาะพีพีดอนเป็นเกาะใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของเกาะพีพี ทั้งที่พัก ท่าเรือ ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่างอยู่ที่เกาะนี้ทั้งหมด รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่งดงาม เกาะพีพีดอน ประกอยด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่ คือ อ่าวต้นไทรกับ กับอ่าวโละดามลัมซึ่งเป็นเวิ้งวงเข้าหากันคั่นด้วยที่ราบเล็กๆ ร่วมรื่นด้วยทิวมะพร้าว เมื่อจาก จุดชมวิวบนยอดเขาจะเห็น ความงดงามนี้ที่สร้างชื่อให้คนรู้จักเกาะพีพีมานานการที่จะไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ จะขึ้นอยู่กับฤดูกาลเป็นหลัก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะมาเที่ยวเกาะพีพี อยู่ที่เดือน กุมภาพันธ์ - เมษายน คุณสามารถ ไปเที่ยวเกาะพีพีได้ทุกจุดรอบเกาะ แต่ช่วงเวลาหลังจากนั้น จะสามารถไปได้เพียงบางจุดเท่านั้น เพราะติดเรื่อง ของสภาพอากาศ อย่างไรก็ตาม แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะพีพีดอน ที่น่าสนใจมีอยู่รอบเกาะ ได้แก่
- อ่าวต้นไทร 
อยู่ทางทิศใต้ของเกาะพีพีดอน เป็นที่ตั้งของ ท่าเรือต่างๆ ชายหาดยาว 2 ก.ม. เองก็มีความสวยงาม หาดทราย สวย น้ำใส แม้จะมีเรือจอดเรียงรายก็ตาม เหมาะแก่การเล่นน้ำ เดินเล่น ร่มรื่นด้วยเงาต้นมะพร้าว ทางทิศตะวันตก ยังสามารถ ดำน้ำดูปะการังได้อีกด้วยในอีกมุมหนึ่ง ใจกลางของอ่าวต้นไทร คือ ศูนย์กลางการค้า โรงแรม รีสอร์ท มากมาย  ผู้คนมากมาย ร้อยละ 90 เป็นชาวต่างชาติ ใส่ว่ายน้ำหรือสาวๆก็ใส่ชุดบิกินนี่เดินกันให้ขวักไขว่ สองข้าง ทางเป็นตึกแถวสองชั้น หน้าร้านเรียงรายกัน เป็นร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านขายเสื้อผ้า ร้านจำหน่ายทัวร์ ร้านขายของที่ระลึก เดินห่างออก ห่างออกไปจะเป็นผับ บาร์ บรรเลงดนตรีเฮฮาเป็นที่ สนุกสนาน ตลอดเย็นจรดกลางคืน
-อ่าวโละดาลัม
เป็นอีกหาดที่เวิ้งโค้งเข้าหาอ่าวต้นไทร สามารถเดินทะลุถึงกันได้โดยใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที อ่าวนี้มี ชายหาดที่กว้างมากและเป็นหาดที่น้ำตื้น จึงไม่เหมาะจะเป็นท่าเรือเหมือนอ่าวต้นไทร และเวลาน้ำลดจะ เกิดเป็น เวิ้งอ่าวที่ใหญ่ น้ำในทะเลค่อนข้างนิ่งและไม่ลึก หาดนี้จึงเหมาะแก่การทำกิจกรรมทางทะเลหรือเล่นกีฬาริมหาด เช่นพายเรือคายัค เรือกล้วย หรือลงเล่นน้ำ อ่าวโละดาลัมเป็นหาดหนึ่งที่มีที่พักให้เลือกมากมาย และค่อนข้าง จะสะดวก สบายไม่แพ้ที่อ่าวต้นไทร แต่จะมีความเงียบสงบมากกว่าที่อ่าวต้นไทร
-อ่าวยงกะเส็ม(อ่าวลิง)
นักท่องที่ยวและคนที่เกาะเรียกกันติดปากว่าอ่าวลิง หรือ Monkey Bay หากมองภาพของอ่าวลิงจาก เรือไปสู่ ชายหาด ฉากหลังตลอดแนวขาวชองหาดทราย คุณจะเห็นสีเขียวของป่าทึบตัดกับสีขาวของทรายนั่นคือจุดที่ป่า มาพบกับทะเลที่นี่ ภูเขาด้านหลังของอ่าวลิงค่อนข้างสูงชัน และเขียวทึบ ป่าผืนนี้จะเป็นสีเขียวตลอดปี ซึ่งป่าแห่งนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของลิงฝูงใหญ่ ซึ่งบ่อยครั้งจะลงมาที่ชายหาด และเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว อ่าวลิงมี มีทะเล และเป็นแหล่งของปะการัง เป็นกองหินอยู่ใต้น้ำจำนวนมากมายแนวประการังที่อ่าวลิงนับว่าเป็นแนวประการังที่ ใหญ่พอสมควร มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เป็นประการังน้ำตื้น แต่ตามช่วงแนวหน้าผาลึกลงไปจะเป็น ประการังอ่อน สีสดใส พริ้วไหวกับกระแสน้ำ ท่านที่ไม่เคยดำน้ำแบบ Scuba Diving แต่ถ้ามาดำน้ำตามหน้าผา ในจุดนี้ช่วงน้ำลง จะได้พบเห็นประการังอ่อน และสภาพแวดล้อมของประการังน้ำลึก เหมือนได้ ดำน้ำแบบ Scuba Diving
-หาดยาว
อยู่ติดกับอ่าวต้นไทรจึงมีความคึกคักไม่แพ้กัน ชายหาดมีความยาวเกือบ 700 เมตร เป็นชายหาดที่ยาวสมชื่อ นักท่องเที่ยวนิยมไปนอนอาบแดดและเล่นน้ำทะเลกันมาก นอกจากนี้ยังมีแหล่งดำน้ำที่เด่นที่สุด อยู่ที่ปลายหาด ทางด้านทิศตะวันออกบริเวณ หินแพ เป็นกองหินใต้น้ำ ที่มีปะการังหลากหลายชนิด เช่น ปะการังกิ่ง ปะการังสมอง สามารถดำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก ถัดจากหาดยายอ้อมหัวเกาะไปอีกฝั่ง มีหาดเล็กๆที่เงียบสงบ ยาวประมาณ 400 เมตรชื่ออ่าวโละมูดี มีหาดทรายที่ขาวสะอาด สามารถเล่นน้ำได้ เดินทางได้โดยนั่งเรือมาจากอ่าวต้นไทร

2. เกาะพีพี เล 
เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เกาะพีพีเลไม่มีสิง่อำนวยความสะดวกจากที่พักและร้านอาหาร เพราะ เป็นเกาะเขาหินปูนมีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับพื้นผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ ทั้งเกาะมีชายหาดเพียงเล็กน้อย แต่มีจุดเด่นทางธรรมชาติคือ การเป็นจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลุกที่สวยงาม สามารถดำชมได้บริเวณอ่าวปิเล๊ะ และอ่าวโลซะมะ จุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะพีพีเล ได้แก่
- อ่าวปิเละ
มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวใหญ่ มีหน้าผาสูงชั้นปิดล้อมรอบด้าน แต่งแต้มด้วยสีเขียวของพรรณไม้หายาก นานาชนิด มีลักษณะที่เรียกว่า Lagoon หรือ ทะเลใน มีทางเข้าเพียงทางเดียวหน้าผาที่ตั้งฉาก 90 องศากับทะเลให้ ความรู้สึกเหมือนหนึ่งเราลอยอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ ที่น้ำทะเลใสสีเขียวมรกตอมฟ้าและนื่งเรียบ สนิทเหมือน กระจกเงา เรือ ท่องเที่ยวจะนิยมมาดับเครื่องจอดนิ่งอยู่ภายในเวิ้งอ่าวที่แวดล้อมด้วย ขุนเขาให้นักท่องเที่ยว ได้ชื่นชมความงามของทะเลสีมรกตคล้ายกับโลกอาณาจักรส่วนตัวอันนิ่งสงบ นอกจากนี้ อ่าวปิเละยังเป็นจุดดำน้ำ ดูประการังที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งทางด้านหน้าของทางเข้าอ่าวจะเป็นหน้าผา และที่นี่คือจุดดำน้ำลึก ที่สวยงาม มากแห่งหนึ่ง หากชอบดำน้ำตื้นแบบก็ยังสามารถดำน้ำดูประการังที่ด้านหน้าของอ่าวปิเละได้
- อ่าวมาหยา 

อ่าวที่งดงามที่สุดของเกาะพีพีเล เพราะเป็นเวิ้งอ่าวใหญ่โอบล้อมด้วยแนวหน้าผาจน ลักษณะของอ่าวมาหยา จะคล้ายกับทะเลใน Lagoon  มีภูเขาล้อมรอบคล้ายกลายเป็นอาณาจักรส่วนตัว ภายในอ่าวน้ำทะเลเป็น สีมรกต ใสมีหาดทรายขาวสะอาดผืนใหญ่ทอดตัวเ็ป็นแนวยาวด้านใน สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่งของอ่าวมาหยา คือเม็ดทราย ที่ขาวละเอียด และอ่อนนุ่มเหมือนผงแป้ง เมื่อคุณได้ไปสัมผัสกับหาดทรายของอ่าวมาหยา คงอด ไม่ได้ที่จะเอนตัวลงบนบนหาดทรายที่อ่อนนุ่มขาวสะอาดตา ที่ใครๆมาถึงต่างก็หลงรักในความงามของที่นี่ อ่าวมาหยายังใช้้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ฮอลีวู๊ต เรื่อง "The Beach ในช่วงเดือนตุลาคม จนถึง เมษายนเป็น ฤดูกาลที่ดีที่สุดที่จะเป็นเที่ยวอ่าวมาหยา เพราะจะไม่มีลมเข้ามาทางด้านหลังของเกาะพีพี น้ำในอ่าวมาหยา จะนิ่ง สนิทและใสเหมือนกระจกเงา แต่ในช่วงเวลาอื่นอาจจะเข้าอ่าวมาหยาได้เพียงบางวันที่อากาศดี และไม่มีลมแรง เท่านั้น หรืออาจจะเข้าอ่าวมาหยาจากทางอ่าวโละสะมะอีกฝั่งหนึ่งของเกาะพีพีเล โดยจะมีทางเดิน ลอดถ้ำเล็กๆ เข้ามาถึงอ่าวมาหยาได้ ใช้เวลาเดินไม่นานนัก
- อ่าวโล๊ะซามะ
คือเวิ้งอ่าวแคบๆอีกแห่งหนึ่งที่น้ำทะเลสวยใส เป็นจุดดำน้ำตื้น snorkeling ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ของเกาะพีพีเล อ่าวโล๊ะสะมะ มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมา คุณจะได้พบเห็นประการังอ่อนหลากลายชนิดที่นี่ สีสันใต้ทะเล ของอ่าวโล๊ะสะมะจัดได้ว่าจัดจ้านทีเดียว มีปลาน้อยใหญ่จำนวนมาก สีสันสวยงาม ใต้ท้องทะเลของอ่าวจะเป็น กองหิน ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ทะเลในวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะมองเห็นปลาน้อยใหญ่และกองหินแนว ประการัง จากเรือของคุณเอง จนคุณจะอดไม่ได้ที่จะคว้าหน้ากากและกระโดดลงไปไหว้น้ำกับฝูงปลาใหญ่น้อย การดำน้ำ แบบ scuba divingก็สวยงามเช่นกัน คุณจะเพลิดเพลินกับการดำน้ำผ่าน หน้าผาใต้ทะเล ที่เต็มไปด้วยกอกัลปังหา และประการังอ่อนหลากสีสันที่พริ้วไหวไปตามกระแสน้ำ คุณอาจได้พบเห็นปลาฉลามกบ Leopard Shark ตัวโตในบริเวณนี้ก็ได้ แต่ไม่ต้องกลัว เพราะเขาเป็นฉลามที่ใจดี และสวยงามมาก สำหรับท่านที่ชอบการผจญภัย สามารถเดินทะลุผ่านโพรงถ้ำเล็กที่อ่าวโล๊ะสะมะ ไปทะลุอ่าวมาหยาอีกฝั่งของเกาะได้ ทางเดินนี้ไม่ไกลนัก อาจจะใช้ในช่วงที่อ่าวมาหยามีคลื่นแรง เรือไม่สามารถไปได้ เราก็สามารถใช้เส้นทางนี้ได้ครับ แต่ควรจะระวัง ไม่ควรใช้เส้นทางนี้ในขณะที่มี่คลื่นแรงและน้ำขึ้นสูง
- ถ้ำไวกิ้ง



เป็นถ้ำขนาดใหญ่ สูงประมาณ 80 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีเล ซึ่งเมื่อปี 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จประภาสถ้ำนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่าถ้ำ พญานาค ตามรูปร่างของหินก้อนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายเศียลพญานาคภายในถ้ำมีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ แต่ค่อน ข้างมือมี หินงอกหินย้อยสวยงาม และภาพเขียนสีโบราณอายุกว่าร้อยปี ปรากฎอยู่บนผนังถ้า ด้านทิศตะวันออก และทิศใตมีอยู่้ ประมาณ 70 ภาพ ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพเรือชนิดต่างๆ เช่นเรือใบ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือกลไฟ บ้างก็มีลักษณะคล้ายกับเรือไวกิ้ง จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำไวกิ้ง นั่นเอง สันนิษฐานว่า ภาพเขียนเหล่านี้เป็ ฝีมือของ ชาวประมง นักเดินเรือ หรือ พวกโจรสลัด ที่มาอาศัยหลบคลื่นลมมรสุมซ่อมแซมเรือ หรือขนถ่ายสินค้าภายในถ้ำ เมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว ปัจจุบันไม่อนุญาติให้เข้าไปภายในถ้ำไวกิ้งอีกต่อไปเนื่องจากทำให้เกิดสภาพที่เสื่อมโทรม ไม่เป็นธรรมชาตปัจจุบันถ้ำรังนกจึงเป็น พื้นที่หวงห้ามของสัมปทานรังนก นักท่องเที่ยวเพียงแค่นั้งเรือชม ทิวทัศน์ ด้านหน้าถ้าไวกิ้งเท่านั้น.

3.เกาะไม้ไผ่ 
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอนไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและ ทิศตะวันออก มีหาดทราย สวยงาม และแนวปะการัง ซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของตัวเกาะ กิจกรรม :กิจกรรมชายหาด - ดำน้ำตื้น - ดำน้ำลึก 

4.เกาะยูง
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดซึ่งเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อย ตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่างๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ กิจกรรม : กิจกรรมชายหาด - ดำน้ำตื้น - ดำน้ำลึก

การเดินทางท่องเที่ยวเกาะพีพี
1. ท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ 
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะพีพีแบบไปเช้าเย็นกลับจากบริษัททัวร์ที่ให้บริการได้ทั้ง จากจังหวัด กระบี่ท่าเรืออ่าวนาง และภูเก็ต บริเวณอ่าวฉลอง โดนเรือเร็ว จากบริษัททัวร์ที่คอยให้บริการ มากมายซึ่งมี โปรแกรมทัวร์ใ้ห้เลือกหลากหลายแล้วแต่ความชอบ โปรแรมท่องเที่ยว ที่เป็นที่นิยม คือ เริ่มจาก เกาะพีีพีเล ได้แก่ อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ อ่าวโละซะมะ และไปแวะรับประทานอาหารกลางวันที่เกาะพีพีดอน หลักจากนั้นก็เริ่ม ท่องเที่ยวไปยังจุดต่างๆ ก็เกาะพี่พีดอน ได้แก่ อ่าวต้นไทร อ่าวโละดาลัมและจุดชมวิวเกาะพีพีดอน 
2. ท่องเที่ยวแบบไปค้างคืน 
- จากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ2 เที่ยว เวลา 10.00 น. และ 14.30 น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 น.เมื่อมาถึงเกาะพีพี นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือหางยาวไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ของเกาะพีพี บริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพีดอน มีเรือหางยาวให้เช่าไปเที่ยวตามชายหาดต่างรวมถึงเกาะพีพีเลด้วย

หาดนพรัตน์ธารา

หาดนพรัตน์ธารา ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เป็นท่าเรือศูนย์กลางไปเที่ยวตามเกาะ ต่างๆ ของกระบี่ เดิมชาวบ้านเรียกว่า "หาดคลองแห้ง" เพราะช่วง น้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอด กลาย เป็นหาดทรายขาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับ เกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็กๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงรายตามชายหาดทะเล มองออก ไปในพื้นน้ำมีทิวทัศน์ของเกาะแก่ง ช่วงน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไป ยัง เกาะเล็กๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ เหมาะสมสำหรับ การพัก ผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หาดนพรัตน์ธารายังเป็นแหล่งที่ อยู่อาศัยของหอยชักตีนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ห่าง จากจังหวัดกระบี่ เพียง 17 กิโลเมตร เท่านั้น


หาดนพรัตน์ธารา เป็นหาดซึ่งที่เป็นที่ทำการของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งมีบ้านพักของอุทยาน ให้บริการ นักท่องเที่ยว และเป็นจุดให้บริการเรือหางยาวท่องเที่ยวเกาะต่างๆในกระบี่ ของสหกรณ์เรือหางยาว  ราคาตามนี้

อ่าวไร่เลย์ อ่าวต้นไทร ถ้ำพระนาง คนละ 100 บาท
เกาะปอดะ เกาะไก่ ทะเลแหวก คนละ  300 บาท
เกาะห้อง เกาะผักเบี้ย ลาดิง (เหมาลำ) 6 คน 2800 บาท
เกาะไผ่ เกาะพี พี เหมาลำ (เหมาลำ) 5 คน  3800-5000 บาท
4 เกาะเต็มวัน  ได้แก่ เกาะไก่ ถ้ำพระนาง ทะเลแหวก ไร่เลย์ (เหมาลำ 6 คน )  2200 บาท
2 เกาะครึ่งวัน เกาะปอดะ ทะเลแหวก ( เหมาลำ 4 คน )  1700 บาท 

การเดินทางไปอ่าวนาง
จากตัวเมืองกระบี่ นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารรถสองแถว ค่าโดยสาร 50 บาท ใช้เวลาประมาณ 45นาที

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หาดถ้ำพระนาง

หาดถ้ำพระนาง อยู่ในเขต ต.อ่าวนาง จะกระบี่  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในโปรแรกมท่องเที่ยว ทัวร์ สี่ เกาะ เกาะปอดะ เกาะทับ(ทะเลแหวก) เกาะไก่ และ หาดถ้ำพระนาง ที่นี่คือ 1 ใน ไฮไลท์แหล่งท่องเทียวทางทะเลของกระบี่ มุมอัศจรรย์มุมนี้ต้อง เดินลึกเข้าไปจนสุดชายหาด อันเป็นที่ตั้งของ ถ้ำพระนาง ด้วยเป็นที่สถิตของ พระนางอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวเรือแถบนี้เคารพสักการะ มุมมองนี้เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด คือเมื่อเข้าไปอยู่ภายในถ้ำมองออกมาจะเห็นปากโพรงถ้ำ มีหินย้อยลงมาเป็นฉากระย้า สวยงาม มีท้องทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่เรียงรายในยามพระอาทิตย์ตก จะเป็นมุมมองสวยงามแปลกตา น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่ง ในเมืองไทย บรรยากาศในช่วงเวลากลางวัน ณ อ่าวถ้ำพระนาง แห่งนี้จะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งนักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วเรือเมล์มาจากสหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง ,นักท่องเที่ยวที่ซื้อโปรแกรม ทัวร์ทะเลแหวก – หมู่เกาะปอดะ - อ่าวถ้ำพระนาง”และ นักท่องเที่ยวที่เดินเท้ามาเองจากหาดไร่เลย์ แต่พอถึงช่วงเวลาเย็นเมื่อ นักท่องเที่ยวเหล่านี้เริ่ม ทยอยกัน เดินทางกลับสู่ที่พัก บรรยากาศบริเวณอ่าวถ้ำพระนางก็จะกลับเข้าสู่ความสงบงามอีกครั้ง


เนื่องจากอ่าวถ้ำพระนางนั้นมีชายหาดซึ่งหันเข้าสู่ทิศตะวันตก ในยามเย็นนักท่องเที่ยวที่พักค้างแรมอยู่ตามรีสอร์ทต่าง ๆ บริเวณ หาดไร่เลย์ – อ่าวถ้ำพระนางจึงสามารถมานั่งรอชมพระอาทิตย์ตกบริเวณด้านหน้าอ่าวแห่งนี้ได้ และหากนักท่องเที่ยว เลือกเดิน ทางมาเยือนอ่าวถ้ำพระนางในยามย่ำสนธยาของคืนเดือนมืดที่คลื่นลมทะเลสงบราบเรียบแล้วล่ะก็ นักท่องเที่ยว อาจจะ ได้พบ เห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์พันลึกที่หาชมได้ยากยิ่ง ณ ท้องทะเลด้านหน้าอ่าวแห่งนี้ด้วย นั่นก็คือปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” ปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวโยนก้อนหิน ก้อนกรวด หรือนำร่างกายลงไป สัมผัส กับพื้นผิวน้ำบริเวณด้านหน้าอ่าวถ้ำพระนางแล้วมีแสงสว่างวาบขึ้นมา ณ จุดสัมผัสชั่วขณะหนึ่งก่อนจะเลือนหายไป

นอกจากนี้ ถ้ำพระนาง เป็นศาลของเทพธิดา ล้อมรอบสิ่งของที่ชาวบ้านนำมาแก้บน นั่นคือไม้แกะสลักที่เรียกว่า ปลัดขิก มีขนาดและ สีสันที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับสถานที่ต่างๆในโลก แต่ที่นี่มันความเชื่อของมนุษย์ในจิตวิญญาณความเป็น อยู่ของทุก สิ่งที่เคลื่อน ไหวอย่างเช่น (นก, ปลา,สัตว์เลื้อยคลานเลี้ยงลูก ด้วยนม,แมลง) รวมทั้งเซื่องซึมเป็น (พืช,หิน,แม่น้ำ,ทะเล,ภูเขา และที่ดินมาก พวกเรายืนอยู่มื่อเรื่องเล่าของชาวบ้านแสดงให้เห็นว่าสมัยก่อน มีเรือพระราช จมนอกชายฝั่งคาบสมุทร และมีพระนาง กับเจ้าหญิง ชาวอินเดียชื่อ ศรีกุลเทวีลอยอยู่บนกระดาน เพราะเธอจมน้ำไปพร้อมกับเรือในทะเลซึ่งเชื่อกันว่า ชีวิตของ เธอไม่เคย สมหวังในเรื่อง ต่างๆ และยังเชือกับว่าวิณญาณของเธอได้สิงสถิดอยู่ที่ศาลแห่งนี้จนถึงบัดนี้ เป็นที่เชื่อกันในหมู่ชาวบ้านที่นี่ ว่าวิญญาณของ พระนาง(เทพธิดา)อยู่ในถ้ำนี้ชาวประมงก่อนที่จะออกไปทะเลจำเป็นที่จะต้องมา ขอพรจากพระนางก่อนแล้วจะ โชคดีและ สมปรารถนาของพวกเขาที่ปรารถนาไว้ และเชื่อว่าสมปรารถนา,การทำพิธี บนจะทำที่ศาลเจ้าส่วนใหญ่จะ เป็นอาหาร และดอกไม้ ธูปเทียนแต่โดยปกติแล้วจิตวิญญาณของ เทพธิดาตามที่เชื่อกันว่าสิ่งที่ ท่านต้องได้รับเป็นสิ่งตอบแทนเป็นพิเศษ คือ ปลัดขิกตอนนี้ คนไทยไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร ไม่ว่าจะศาสนาพุทธหรือศาสนาอิสลามที่มีความเชื่อเรื่องของ ปลัดขิก ที่ศักดิ์สิทธิ์ และหากสร้าง ถวายศาลเจ้า จะเชื่อว่าจะมีความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรืองของโลกทั้งโลกและมนุษย์ ไม่ว่าที่มาและ ความเชื่อว่าวิญญาณ หญิงสาว ที่มีประสิทธิภาพและเป็นกฎของคาบสมุทรแห่งนี้เป็นที่ชัดเจนโดยการบูชาอย่างต่อเนื่อง ของคน ในท้องถิ่น ถ้ำพระนาง ถือว่ามีความสำคัญทางจิตวิญญาณที่ดีสำหรับพวกเขา ชาวประมงเหล่านั้นที่นับถือศาสนาอิสลามจะบูชา และมีความเชื่อโดย ไม่คำนึงถึง ทางศาสนาของพวกเขา และพวกเขาเชื่อถือว่าเป็นเรื่องจริง เพื่อความเชื่อมั่นว่า โชคชะตาและ ความเจริญรุ่งเรืองของ พวกเขาจะเชื่อมโยงไปยังที่ของเจ้าหญิงในตำนาน พวกเขายังคงให้การเสนอ ขายปกติของข้าว ผลไม้,น้ำ ธูป, ดอกไม้และ ปลัดขิก

ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม 
สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีทุกช่วงฤดูกาล แต่ในช่วงฤดูฝนควรใช้ความระมัดระวังในการลงเล่นน้ำทะเล เนื่องจากคลื่นลมแรง และมีแมงกะพรุนชุกชุม

การเดินทางไปถ้ำพระนาง
สามารถเซื้อโปรแกรมทัวร์ 4 เกาะ ทะเลแหวก เกาะปอดะ ซึ่งจะแวะหาดถ้ำพระนางด้วย จากบริษทัวร์ที่ให้บริการบริเวณอ่าวนาว หรือจากรีสอร์ที่พักจะคุ้มค่ากว่า หรือหากต้องการไปพักที่หาดถ้ำพระนางสามารถซื้อตั๋วเรือเดินทางเอง มีเรือเมล์ (เรือหางยาว) จาก “ท่าเรืออ่าวนาง” ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลาเวลาประมาณ 8.00 – 8.30 น. ถึงไม่เกิน 17.30 – 18.00 น. ราคาตั๋วเรือคนละ 80 บาท/เที่ยว โดยต้องรอให้มีนักท่องเที่ยวซื้อตั๋วเรือครบ 7 คนก่อนเรือจึงจะออก

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทะเลแหวก

ทะเลแหวก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen Thailand ความภูมิใจของชาวกระบี่ที่มีจุดสวยงามอย่าง มหัศจรรย์ ที่เราสามารถเดินเหยียบทรายขาวละเอียด จากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้เวลาน้ำลด ทะเลแหวกเกิดจาก สันทรายจากเกาะสามเกาะ คือเกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ ทั้งสามเกาะนี้เป็น 3 เกาะเด่นที่อยู่ใน หมู่เกาะปอดะ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกัน มีสันฐาณติดกันเมื่อคลื่นพัดทรายมาพบกันที่จุดนี้จึงทำให้เกิดเป็น แนวสันทราย เชื่อมเกาะทั้งสามเกาะนี้ให้ถึงกัน สันทรายนี้จะจมหายไปเมื่อน้ำขึ้นสูง เมื่อน้ำลดแนวสันทรายก็จะค่อยๆ โผล่ขึ้นมา เหมือนกับว่าแบ่งทะเลให้้แยกออกกันเป็นสามส่วน สันทรายจะโผล่ในช่วงที่น้ำทะเลลดต่ำสุด แต่ถึงแม้ว่าสันทราย จะไม่โผล่เราก็สามารถเดินเล่น ได้ หาดทรายของทะเลแหวกนี้ขาวสะอาดน่าเล่นน้ำ การท่องเที่ยวทะเลแหวก จะนิยมท่องเที่ยวทั้งหมด 4 เกาะ คือเกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะปอดะ ซึ่งสามารถเที่ยวได้ใน 1 วัน





เริ่มจาก เกาะไก่ ที่เรียกว่าเกาะไก่ก็เพราะว่าทางด้านปลายสุดของเกาะมีหินแหลมๆ เมื่อมองขึ้นไปแล้วคล้ายคอไก่ เกาะไก่เป็นเกาะที่สามารถหยุดเรือแล้วลงไปว่ายน้ำได้โดยสามารถลงไปเล่นน้ำแล้วให้อาหารปลาด้วยการ ให้ขนม ปังโรย ไว้รอบๆตัวแล้วปลาก็จะมาอยู่ล้อมรอบเราต่อด้วยเกาะทับ เกาะที่เราสามารถมองเห็นปะการังน้ำตื้นได้ โดยที่ไม่ต้องลงไปดำกันลึกๆ แวะพักเล่นน้ำให้ ในบรรยากาศอันเงียบสงบ




จากนั้นก็จบด้วยเกาะปอดะ เกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด นุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าใส  เกาะปอดะเหมาะกับ การมา เที่ยวพักผ่อนและเล่นน้ำซะมากกว่าที่จะมาดำน้ำชมปะการัง เพราะในย่านนี้ไม่ค่อยมีที่พอมีก็ไม่สวยทะเลกระบี่ เหมาะกับการมาท่องเที่ยวพักผ่อนชมวิว เล่นน้ำการมาชมทะเลแหวก ควรมาชมในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุด ในแต่ละวัน โดยเฉพาะ ในวันก่อน และหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวทะเลแหวกคือ ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึง ต้นพฤษภาคม
จุดเด่น ของการเที่ยวชมทะเลจะแหวกคือการมาชมวิว ถ่ายภาพ ควรหลีกเลี่ยงการมาเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาล ทะเลแหวกจะมีคนเยอะเดินกันจนแน่นไปหมด ถ้าจะมาชมทะเลแหวกให้ประทับใจควรเลือกมาใน ช่วงวันหยุด ธรรมดานอก จากชมวิวถ่ายภาพทะเลแหวกแล้วที่นี่ยังเป็นอีกชายหาดหนึ่งที่น่าลงเล่นน้ำเพราะ มีแนวหาดทราย กว้าง น้ำใส ปลาเยอะ แต่ถ้าจะมาเล่นน้ำก็แนะนำให้มาในช่วงวันหยุดธรรมดา(เสาร์-อาทิตย์)หากมาวันหยุด เทศกาลคนเยอะไม่สนุก
เกาะปอดะ
การเดินทางไปทะเลแหวก
สามารถเที่ยวโดยซื้อแพคเก็จทัวร์โดยเรือหางยาว ราคาท่านละ 350 - 450 บาท แพคเก็จเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ท ราคาท่านละ 800 - 1,000 บาท จากบริษัททัวร์ที่ให้บริการ ตอนเช้ามีรถไปรับถึงโรงแรม ตอนเย็น ไปส่งกลับถึงโรงแรม หรือถ้าเดินทางมา โดยรถทัวร์ลงรถ แล้วรออยู่ที่ท่ารถ บขส. ตอน 8.00 - 8.15 น. จะมีรถ ไปรับถึงที่ท่ารถ คนเดียวหรือสองคนก็มาได้ รถจะวิ่งรับ ตามจุดไปเรื่อยๆ แล้วพามาลงเรือที่อ่าวนาง โดยโปรแกรม ท่องเที่ยวจะเป็นทัวร์ 4 เกาะ ได้แก่ ทะเลแหวก (เกาะหม้อ เหาะทับ) เกาะปอดะ เกาะไก่

สระมรกต

สระมรกต กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิประมาณ30-50 องศาเซลเซียส เป็นสระน้ำสวยใสกลางใจป่า ที่มีน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสง สระมรกตกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส รอบๆ บริเวณเป็นป่าร่มรื่นเขียวครึ้มมีพรรณไม้ที่น่าสนใจ




จากที่จอดรถเดินทางเท้าเข้ามาประมาณ 800 เมตร จะถึงตัวสระมรกต หรือจะไปอีกทางที่เป็นเส้นทางศึกษา ธรรมชาติที่มีระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร แต่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะมาบรรจบกันที่สระมรกตที่เดียวกัน แต่แนะนำว่าตอนเดินเข้าไปที่สระให้เดินในเส้นทางปกติ ส่วนขากลับนั้นก็กลับมาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินใน ลักษณะเป็นวงรอบ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเป็นป่าเขียวครึ้ม ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ที่น่าสนใจเป็นแหล่งชมนกหายาก เช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล นกเงือกดำ ฯลฯระหว่างเดินก็จะพบสายน้ำไหล และสระใหญ่ สระเล็กไปตลอดทาง สวยงามมาก

หลังจากที่เดินชม สระมรกต ก็ไปชมบ่อน้ำผุด ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสระมรกต ลักษณะเป็นตาน้ำสีฟ้าอมน้ำเงิน เป็นสระน้ำแร่ธรรมชาติ ด้วยความมีแร่ธาติอยู่มาก และได้สะท้อนแสงอย่างที่เห็น ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติ เขาพนมเบญจา เป็นแอ่งน้ำตามธรรมชาติขนาดเล็ก มีฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาเหนือน้ำตลอดเวลา สันนิษฐานว่า เกิดจากน้ำที่ซึมออกมาจากใต้ดิน ทำให้ที่แห่งนี้มีน้ำตลอดปี และไหลเป็นลำธารสู่ที่ต่างๆ
ภาพสระมรกต

รายละเอียดเพิ่มเติม
ค่าธรรมเนียมการเข้าชม
คนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท
ต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท 
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 17.00 น. ทุกวัน

การเดินทางไปสระมรกต
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว
อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ตามถนนเพชรเกษม (กระบี่-ตรัง) ประมาณ 45 กิโลเมตรจากนั้นแยกเข้า ถนนสุขาภิบาล 2 สังเกตจากป้ายบอกทาง ตรงที่ว่าการอำเภอคลองท่อมไปอีกประมาณ 15ไปตามทางหลวง หมายเลข 4038 แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนรพช. และตามป้ายบอกทางไปจะพบน้ำตกร้อน และสระมรกต

น้ำตกร้อน คลองท่อม

น้ำตกร้อน นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว unseen  Thailand อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ ตัวน้ำตกตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งก็ใกล้ๆ กับสระมรกต เป็นอ่างอาบน้ำธรรมชาติกลางป่ารองรับ สายน้ำตก ที่ไหลหลั่นลง มาจากเนินเขา ใครได้มาสัมผัสต่างบอกกันว่า ไม่ใช่น้ำตกธรรมดาๆ แน่นอน ก็ใครจะเชื่อว่า นี่คือน้ำตกร้อน สายน้ำแร่ ที่ไหลมาพร้อมๆ กับไออุ่นเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ มีลักษณะ เป็นธารน้ำพุร้อนผุด ขึ้นมาจากใต้ดินตาม ธรรมชาติ มีสารกำมะถัน เจือจางเป็นส่วนประกอบ มีอุณหภูมิพอเหมาะตกลงมาในแอ่งสามารถอาบน้ำได้ บริเวณ ธารน้ำตกร้อนขนาดเล็ก ที่ไหลลดหลั่นกันมาตามธรรมชาติ ในน้ำพุร้อนประกอบไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยให้ผ่อน คลายเชื่อว่าสามารถบำบัดอาการไขข้ออักเสบ ปวดหลัง และเกี่ยวกับผิวหนังได้


 


เมื่อเราเดินทางไปถึง ก็จะต้อง เดินเท้าเข้าไปอีก ประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตก ผ่านเส้นทาง ศึกษา ธรรมชาติระหว่างทาง อาจพบกับหินรูปหน้า หน้าตาประหลาดใต้น้ำอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีมีบ่อกักเก็บน้ำร้อนก่อน ทางเข้าน้ำตก นักท่องเที่ยมักลงไปแช่น้ำเพื่อรักษาสุขภาพ และความสบายตัว มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศา

ที่นี่เป็นแหล่งรวมของคนรักสุขภาพที่ต้องการมาบำบัดร่างกายคลายปวดเมื่อยล้าตามส่วนต่างๆ และยังเป็นที่พักใจ ให้สบายจากความรื่นรมย์ของธรรมชาติป่าเขา...เพราะไออุ่นจากน้ำแร่ธรรมชาติของธารน้ำตกร้อน ที่ว่ากันว่าดี ต่อสุขภาพด้วยบรรยากาศกลางป่าน่ารื่นรมย์ บ่อน้ำตกร้อนที่มากด้วยสรรพคุณ น้ำตกร้อนคลองท่อมจึงเป็นสปา ธรรมชาติชั้นเลิศ ที่คนรักสุขภาพต้องติดใจ ถ้าเรามาเที่ยวในวันหยุดนั้น อาจมีทั้งนักท่องเที่ยว และชาวบ้าน มา เที่ยวและเล่นน้ำกันค่อนข้างมาก  แนะนำให้ไปในวันธรรมดา เพราะจะ ดูเป็นธรรมชาติและคนน้อยกว่า




รายละเอียดเพิ่มเติม
ค่าธรรมเนียมการเข้าชม
คนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท
ต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 17.00 น. ทุกวัน

การเดินทาง
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว
อยู่ในเขตอำเภอคลองท่อม ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 50 กิโลเมตร จากกระบี่ถึง อ.คลองท่อมเลี้ยว ซ้ายไปตาม ทางหลวงหมายเลข 4038 แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนรพช. และตามป้ายบอกทางไปจะพบน้ำตกร้อน

สุสานหอย

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว :



อยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ใช้เส้นทางไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย ใช้เส้นทางหมายเลข 4204 จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว 2 เซนติเมตร ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลจับตัวเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้จึงปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี